S.Air Service ล้างแอร์ซ่อมเเอร์บ้านราคาถูก

บริการล้าง ซ่อม  พร้อมติดตั้ง บริการทั้งบ้านและออฟฟิตมาตรฐานคุณภาพ รับประกันผลงานโดยทีมงานมืออาชีพ

สอบถามราคาล้างแอร์ แอดไลน์  BANK9857

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เบอร์โทรศัพท์  0821469857

“อ.เจษฎา” ไขข้อข้องใจ ข้อแนะนำ ก.พลังงาน เปิดแอร์ 27 องศาเซลเซียส ควบคู่พัดลม ประหยัดไฟกว่า 23-24 องศาเซลเซียส จริง

 

วันที่ 19 มี.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีรัฐบาลเชิญชวนให้ประชาชนช่วยกันประหยัดพลังงาน หลังขณะนี้ได้รับผลกระทบวิกฤติพลังงานจากสู้รบรัสเซีย-ยูเครน และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการบรรเทาผลกระทบประชาชนให้มากที่สุด และเบื้องต้นกระทรวงพลังงานแนะนำวิธีประหยัดพลังงานน้ำมันและไฟฟ้าให้ประชาชนสามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ตัวเองและครอบครัว

 

ทั้งนี้ หนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างน่าสนใจคือ ควรเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 27 องศาเซลเซียส พร้อมกับเปิดพัดลมตั้งพื้นควบคู่กัน ช่วยเพิ่มการเคลื่อนที่ของอากาศในห้อง และช่วยลดอุณหภูมิลงได้ประมาณ 2 องศาเซลเซียส โดยจะช่วยให้ประหยัดไฟมากกว่าการเปิดแอร์ที่ 23-24 องศาเซลเซียสอย่างเดียว รวมทั้งควรทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศทุกเดือน และล้างแอร์ทุก 6 เดือน จะช่วยทำให้อากาศบริสุทธิ์และประหยัดไฟ ซึ่งวิธีใช้แอร์ดังกล่าวจะช่วยประหยัดค่าไฟลงได้ 10-30% ทั้งนี้ ไม่ควรใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน เช่น ไดร์เป่าผม เตารีด ภายในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศด้วย

 

จากประเด็นดังกล่าวทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยเนื่องจากที่ผ่านมามักมีภาพจำของการเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสคือการประหยัด ในเรื่องนี้ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไขข้อสงสัยในเรื่องนี้ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ว่า เปิดแอร์ที่อุณหภูมิสูงพร้อมเปิดพัดลม ประหยัดไฟได้มากกว่าเปิดแอร์ที่อุณหภูมิต่ำเป็นเรื่องจริง และมักจะใช้วิธีนี้ที่บ้านตัวเองเป็นประจำ

หลักการคร่าวๆ คือ การเปิดแอร์ที่อุณหภูมิสูง เช่นที่ 27 องศาเซลเซียส แอร์จะกินไฟน้อยกว่าการเปิดแอร์ที่อุณหภูมิต่ำ เช่น ที่ 23-24 องศาเซลเซียส ที่เป็นเช่นนั้นเพราะส่วนคอยล์ร้อนหรือคอมเพรสเซอร์ของแอร์จะทำงานน้อยลงเมื่อตั้งอุณหภูมิสูงขึ้น โดยคอมเพรสเซอร์จะทำงานไม่นาน ก็ตัดการทำงานเพราะอุณหภูมิลงไปถึงจุดที่ตั้งไว้แล้ว (27 องศาเซลเซียส) ทำให้แอร์กินไฟน้อยลงด้วย

 

ทั้งนี้ ความจริงการที่แอร์ลดอุณหภูมิห้องลงเหลือ 27 องศาเซลเซียส ก็เพียงพอที่จะลดความชื้นในห้องจนทำให้เรารู้สึกสบายขึ้นได้แล้ว ขณะที่การเปิดพัดลมเป่ามาที่ตัวเราจะช่วยให้รู้สึกเย็นสบายขึ้นอีกจากกระแสลมที่มาปะทะตัว ทำให้การแลกเปลี่ยนความร้อนออกจากร่างกายของเรา เกิดได้ดีขึ้น แถมพัดลมตั้งพื้นกินไฟต่ำกว่าแอร์มากๆ คือใช้ไฟเพียงแค่ไม่กี่วัตต์เท่านั้น แม้จะเปิดพัดลมเบอร์ 2 เบอร์ 3 หรือเปิดพัดลมเพิ่มขึ้นอีก 2-3 ตัว ก็ยังกินไฟน้อยกว่าแอร์อยู่ดี

รศ.ดร.เจษฎา สรุปทิ้งท้ายว่า การปรับอุณหภูมิของเครื่องแอร์ จากที่เคยตั้งไว้ 23-24 องศาเซลเซียส มาเป็น 27 องศาเซลเซียสพร้อมเปิดพัดลมตั้งพื้นเป่าตัว ช่วยให้เราประหยัดพลังงาน ประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น และอย่าลืมว่าให้หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองแอร์ ล้างแอร์เป็นประจำด้วย.

 

ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2345720

 

 

 

 

หน้าร้อนปีนี้คาดทะลุ 45.4 องศา จับตาตลาดแอร์ขายดีสุดๆ แอลจีส่งนวัตกรรมระบบปรับอากาศครอบคลุมทุกตลาด ทั้งแอร์บ้าน แอร์เชิงพาณิชย์ และเครื่องปรับอากาศยกระดับประสบการณ์ความเย็นและอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ

มร. ซองฮัน จอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า คาดโตไม่ต่ำกว่า 20% แอลจี ปล่อยหมัดเด็ด ส่งแอร์รุ่นใหม่ ที่แรกของโลกในไทย รุ่น “ดูอัล คูล” มาพร้อมระบบอัจฉริยะ และฟังก์ชั่นควบคุมค่าไฟไม่ให้บานปลายอย่างที่ผ่านมา

 

"ตลาดเครื่องปรับอากาศเดือดไม่แพ้อุณหภูมิ คาดการณ์สภาพอากาศช่วงหน้าร้อน หรือระหว่างเดือน มี.ค. – มิ.ย. 2024 อาจมีอุณหภูมิสูงสุด 45.4 องศาเซลเซียส ถือว่าค่อนข้างสูง และกลายเป็นโอกาสในการทำตลาดเครื่องปรับอากาศของทุกแบรนด์ โดยช่วงฤดูร้อนนั้นคิดเป็นสัดส่วนการซื้อเครื่องปรับอากาศของยอดขายตลาดทั้งปีถึง 70% แอลจี ประเทศไทย ชี้สู้ศึกชิงแชร์หน้าร้อน ส่งเครื่องปรับอากาศซีรีส์ใหม่จับตลาดกลางบน อัดงบการตลาด 200 ล้านบาท ปั้นยอดขาย 2,600 ล้านบาท โต 30% ขึ้นแท่นท็อป 5 ของตลาด"

 

ภาพรวมตลาดแอร์ หรือเครื่องปรับอากาศที่จำหน่ายในประเทศไทยปี 67 ที่ 34,327 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปี 2023 เนื่องจากอากาศหน้าร้อนในไทยปีนี้อาจทะลุ 45 องศาเซลเซียส ในปี 66 แอลจีต่อสู้ในตลาดเครื่องปรับอากาศอย่างดุเดือด ครองอันดับ 8 ของตลาด ชิงส่วนแบ่ง 5.7%  ในปี 67 แอลจี เปิดเกมรุกคาดติด 1 ใน 5 ผ่านส่วนแบ่งตลาด 7.5% และมียอดขาย 2,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2023 ที่อยู่ราว 2,000 ล้านบาท

ในปีนี้ แอลจีได้ส่งไลน์อัพเครื่องปรับอากาศภายในบ้านใหม่ล่าสุด เสริมทัพระบบ ดูอัล อินเวอร์เตอร์ (Dual Inverter) ที่มีในทุกรุ่นเพื่อช่วยประหยัดพลังงานและให้ความเย็นเร็ว โดยเครื่องปรับอากาศภายในบ้านรุ่นใหม่จะมุ่งเน้นการตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ ประหยัดพลังงาน โดยไลน์อัพใหม่ล่าสุดในปี 2024 นี้มีทั้งหมด 4 รุ่น ประกอบด้วย

LG DUALCOOL ELITE (รุ่น HPQ) ด้วยการดีไซน์ที่เครื่องปรับอากาศที่หรูหรา ยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี Human Detection ฟังก์ชันควบคุมการปรับเพิ่มอุณหภูมิและปิดเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติจากการตรวจจับคนที่อยู่ในห้อง และเทคโนโลยี Window Detection ที่ช่วยส่งสัญญาณเตือนผู้ใช้งานหากเปิดประตูหรือหน้าต่างทิ้งไว้

LG DUALCOOL PRIME (รุ่น IEQ) ด้วยฟังก์ชันใหม่พร้อมตอบรับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลและการประหยัดพลังงานพร้อมค่าใช้จ่าย ด้วยฟังก์ชัน kW Manager (Kilowatt Manager) by ThinQ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายและการใช้งานได้ง่าย ๆ ผ่านสมาร์ทโฟน

LG DUALCOOL SMART (รุ่น ICQ) และ LG DUALCOOL ICE (รุ่น ICE) โดดเด่นด้วย Fine Dust Filter กำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็กเพื่ออากาศที่สะอาดยิ่งขึ้น และ Auto Cleaning ระบบไล่ความชื้นอัตโนมัติ พร้อม Active Energy Control ควบคุมการใช้พลังงานด้วยปลายนิ้วมือ ประหยัดพลังงานสูงสุดถึง 60%

นอกจากนี้ จากเทรนด์การใช้พื้นที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่หลาย ๆ องค์กรสนับสนุนการทำงานจากที่บ้านหรือที่ใดก็ได้ แอลจีได้พัฒนาเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ที่สามารถนำมาใช้ภายในบ้าน ออฟฟิศ คาเฟ่ หรือสถานที่ต่าง ๆ โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่หลากหลาย ตอกย้ำการเป็นผู้นำนวัตกรรมเครื่องปรับอากาศที่นำเสนอทุกคำตอบของระบบปรับอากาศพร้อมดันตลาดทั้งเครื่องปรับอากาศภายในบ้านและพาณิชย์

 

สุดท้ายนี้ แอลขี เชื่อมั่นในศักยภาพของแบรนด์ทั้งเรื่องช่องทางจัดจำหน่าย การตลาดรวมถึงการมีโรงงานผลิตมีโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ในประเทศไทย เพื่อจำหน่ายทั้งในไทยและส่งออกไปต่างประเทศ โดยกลุ่มเครื่องปรับอากาศที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่กว่า 2 ล้านเครื่องต่อปี เป็นความเชื่อมั่นว่ายังสามารถขยายสายป่านให้เติบโตต่อเนื่องได้

 

ที่มา : https://www.thansettakij.com/business/marketing/588700

กลับมาอีกครั้ง เปิดเงื่อนไขรับสิทธิ์ส่วนลด โครงการ "ล้างแอร์ช่วยชาติ 2566" เริ่ม 1 พฤษภาคม 2566

 

วันที่ 30 เมษายน 2566 แฟนเพจ กฟผ. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โพสต์ถึง "โครงการล้างแอร์ช่วยชาติ 2566" โดยระบุว่า อากาศร้อนแบบนี้ เครื่องปรับอากาศเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยให้หลายๆ คนคลายร้อนได้เป็นอย่างดี แต่ทุกคนรู้ไหมว่าการที่เราไม่ล้างแอร์ จะทำให้ค่าไฟสูงกว่าปกติ เพราะแอร์จะทำงานหนักขึ้น จากฝุ่นละอองที่เข้าไปติดในแผ่นกรองอากาศ และตามอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้แผ่นกรองอุดตัน

 

กฟผ. ร่วมกับห้างสรรพสินค้าและผู้ค้าปลีกบริการล้างแอร์ มอบส่วนลดค่าบริการล้างแอร์ครึ่งราคา จำนวน 10,000 สิทธิ์ เหลือค่าบริการล้างแอร์ 300 บาท เพียงแสดงบัตรประชาชนและบิลค่าไฟย้อนหลัง 2 เดือน ณ จุดขายของห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ 

 

ที่มา :https://www.thairath.co.th/news/society/2690227

หน้าร้อนปีนี้คาดทะลุ 45.4 องศา จับตาตลาดแอร์ขายดีสุดๆ แอลจีส่งนวัตกรรมระบบปรับอากาศครอบคลุมทุกตลาด ทั้งแอร์บ้าน แอร์เชิงพาณิชย์ และเครื่องปรับอากาศยกระดับประสบการณ์ความเย็นและอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ

มร. ซองฮัน จอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า คาดโตไม่ต่ำกว่า 20% แอลจี ปล่อยหมัดเด็ด ส่งแอร์รุ่นใหม่ ที่แรกของโลกในไทย รุ่น “ดูอัล คูล” มาพร้อมระบบอัจฉริยะ และฟังก์ชั่นควบคุมค่าไฟไม่ให้บานปลายอย่างที่ผ่านมา

 

"ตลาดเครื่องปรับอากาศเดือดไม่แพ้อุณหภูมิ คาดการณ์สภาพอากาศช่วงหน้าร้อน หรือระหว่างเดือน มี.ค. – มิ.ย. 2024 อาจมีอุณหภูมิสูงสุด 45.4 องศาเซลเซียส ถือว่าค่อนข้างสูง และกลายเป็นโอกาสในการทำตลาดเครื่องปรับอากาศของทุกแบรนด์ โดยช่วงฤดูร้อนนั้นคิดเป็นสัดส่วนการซื้อเครื่องปรับอากาศของยอดขายตลาดทั้งปีถึง 70% แอลจี ประเทศไทย ชี้สู้ศึกชิงแชร์หน้าร้อน ส่งเครื่องปรับอากาศซีรีส์ใหม่จับตลาดกลางบน อัดงบการตลาด 200 ล้านบาท ปั้นยอดขาย 2,600 ล้านบาท โต 30% ขึ้นแท่นท็อป 5 ของตลาด"

 

ภาพรวมตลาดแอร์ หรือเครื่องปรับอากาศที่จำหน่ายในประเทศไทยปี 67 ที่ 34,327 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปี 2023 เนื่องจากอากาศหน้าร้อนในไทยปีนี้อาจทะลุ 45 องศาเซลเซียส ในปี 66 แอลจีต่อสู้ในตลาดเครื่องปรับอากาศอย่างดุเดือด ครองอันดับ 8 ของตลาด ชิงส่วนแบ่ง 5.7%  ในปี 67 แอลจี เปิดเกมรุกคาดติด 1 ใน 5 ผ่านส่วนแบ่งตลาด 7.5% และมียอดขาย 2,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2023 ที่อยู่ราว 2,000 ล้านบาท

ในปีนี้ แอลจีได้ส่งไลน์อัพเครื่องปรับอากาศภายในบ้านใหม่ล่าสุด เสริมทัพระบบ ดูอัล อินเวอร์เตอร์ (Dual Inverter) ที่มีในทุกรุ่นเพื่อช่วยประหยัดพลังงานและให้ความเย็นเร็ว โดยเครื่องปรับอากาศภายในบ้านรุ่นใหม่จะมุ่งเน้นการตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ ประหยัดพลังงาน โดยไลน์อัพใหม่ล่าสุดในปี 2024 นี้มีทั้งหมด 4 รุ่น ประกอบด้วย

LG DUALCOOL ELITE (รุ่น HPQ) ด้วยการดีไซน์ที่เครื่องปรับอากาศที่หรูหรา ยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี Human Detection ฟังก์ชันควบคุมการปรับเพิ่มอุณหภูมิและปิดเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติจากการตรวจจับคนที่อยู่ในห้อง และเทคโนโลยี Window Detection ที่ช่วยส่งสัญญาณเตือนผู้ใช้งานหากเปิดประตูหรือหน้าต่างทิ้งไว้

LG DUALCOOL PRIME (รุ่น IEQ) ด้วยฟังก์ชันใหม่พร้อมตอบรับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลและการประหยัดพลังงานพร้อมค่าใช้จ่าย ด้วยฟังก์ชัน kW Manager (Kilowatt Manager) by ThinQ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายและการใช้งานได้ง่าย ๆ ผ่านสมาร์ทโฟน

LG DUALCOOL SMART (รุ่น ICQ) และ LG DUALCOOL ICE (รุ่น ICE) โดดเด่นด้วย Fine Dust Filter กำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็กเพื่ออากาศที่สะอาดยิ่งขึ้น และ Auto Cleaning ระบบไล่ความชื้นอัตโนมัติ พร้อม Active Energy Control ควบคุมการใช้พลังงานด้วยปลายนิ้วมือ ประหยัดพลังงานสูงสุดถึง 60%

นอกจากนี้ จากเทรนด์การใช้พื้นที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่หลาย ๆ องค์กรสนับสนุนการทำงานจากที่บ้านหรือที่ใดก็ได้ แอลจีได้พัฒนาเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ที่สามารถนำมาใช้ภายในบ้าน ออฟฟิศ คาเฟ่ หรือสถานที่ต่าง ๆ โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่หลากหลาย ตอกย้ำการเป็นผู้นำนวัตกรรมเครื่องปรับอากาศที่นำเสนอทุกคำตอบของระบบปรับอากาศพร้อมดันตลาดทั้งเครื่องปรับอากาศภายในบ้านและพาณิชย์

 

สุดท้ายนี้ แอลขี เชื่อมั่นในศักยภาพของแบรนด์ทั้งเรื่องช่องทางจัดจำหน่าย การตลาดรวมถึงการมีโรงงานผลิตมีโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ในประเทศไทย เพื่อจำหน่ายทั้งในไทยและส่งออกไปต่างประเทศ โดยกลุ่มเครื่องปรับอากาศที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่กว่า 2 ล้านเครื่องต่อปี เป็นความเชื่อมั่นว่ายังสามารถขยายสายป่านให้เติบโตต่อเนื่องได้

 

ที่มา : https://www.thansettakij.com/business/marketing/588700